การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแป้งมันสำปะหลังโดยใช้ซอฟต์แวร์จำลอง 3 มิติ FlexSim ที่ผสานกับหลักการ Lean 4.0 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืน โดยจำลองสถานการณ์การผลิต 6 สถานการณ์ ซึ่งแตกต่างกันไปในระดับของระบบอัตโนมัติและการมีส่วนร่วมของกำลังคน ผลการศึกษาพบว่ากระบวนการอัตโนมัติเต็มรูปแบบช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ 92% จาก 64 ตันต่อวันในวิธีการดั้งเดิมเป็น 123 ตันต่อวัน ในขณะที่ลดของเสียได้ 33% จาก 64 ตันเป็น 43 ตัน สถานการณ์ที่ 6 ซึ่งใช้แรงงานคนเพียงเล็กน้อยและมีคนงานเพียงสองคนในการขนส่ง แสดงให้เห็นถึงการประหยัดต้นทุนที่สำคัญและผลผลิตสูง การนำอินพุตและการทำงานอัตโนมัติอย่างต่อเนื่องมาใช้ทำให้สามารถปรับขนาดได้และยั่งยืน ตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ การปรับปรุงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของการผสมผสาน Lean 4.0 เข้ากับเทคโนโลยีจำลอง ซึ่งให้กรอบการทำงานที่จำลองได้สำหรับผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังเพื่อลดต้นทุนและของเสียพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การวิจัยนี้ไม่เพียงแต่จะแก้ไขปัญหาคอขวดและความไม่มีประสิทธิภาพที่มีอยู่เท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลกที่มุ่งสู่การผลิตอัจฉริยะและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ผลการวิจัยดังกล่าวให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับการพัฒนาภาคการเกษตรของไทย เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นผู้นำในตลาดแป้งมันสำปะหลังของโลกต่อไป ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 อุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังสามารถสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ ความคุ้มทุน และความยั่งยืนได้ ซึ่งถือเป็นมาตรฐานสำหรับแนวทางการผลิตทางการเกษตรสมัยใหม่